สิวอุดตัน จัดการยังไงดีย์

สิวอุดตัน จัดการยังไงดีย์

ถ้าให้นึกถึงสิวที่ชอบมาทักทายบนใบหน้าของเราบ่อย ๆ เพื่อน ๆ จะนึกถึงสิวอะไรกันคะ บิวมั่นใจเลยว่าเกินครึ่งของคำตอบต้องมีชื่อ สิวอุดตัน อย่างแน่นอน สิวอุดตันนี่เรียกได้ว่าพบบ่อยและมากที่สุดอีกชนิดนึงเลยค่ะ ที่ผ่านมาก็มีเพื่อน ๆ ที่มีปัญหาสิวอุดตันมาปรึกษาบิวเช่นเดียวกัน ตัวบิวเองสมัยสาว ๆ ก็มีสิวอุดตันเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้อายุเยอะ สิวอุดตันก็เริ่มน้อยลงมากแล้ว แต่ก็ยังพอมีมาบ้าง ให้คอยจัดการค่ะ

ซึ่งสิวอุดตัน คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ ฝังอยู่บริเวณใต้ผิวหนังทำให้ผิวมีลักษณะเป็นตุ่มนูน ส่วนใหญ่จะพบบริเวณหน้าผากและคาง และสามารถพบได้บริเวณลำตัวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อน ๆ ที่มีผิวมัน

สิวอุดตันเป็นสิวที่มักมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ผู้ที่เป็นสิวอุดตันจะสังเกตเห็นตุ่มนูนขนาดเล็ก ๆ ขึ้นอยู่บริเวณใบหน้า เมื่อใช้มือสัมผัสจะพบว่าสิวมีลักษณะนูน แข็ง และเป็นไต ทำให้ผิวบริเวณนั้นขาดความเรียบเนียน ส่วนตุ่มสิวที่เกิดขึ้นจะมองเห็นเป็นจุดสีขาวหรือจุดสีดำ ขึ้นอยู่กับประเภทของสิวอุดตันที่เป็นค่ะ

ประเภทของ สิวอุดตัน

สิวอุดตันที่เราจะพบได้บ่อย มีด้วยกัน 2 แบบค่ะ ได้แก่

• สิวหัวดำหรือสิวอุดตันหัวเปิด (Blackheads) อันนี้จะมองเห็นได้ง่าย น้องจะเป็นจุดหรือตุ่มนูนสีดำบนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีรูเปิดที่สามารถมองเห็นหัวสิวได้ ส่วนจุดดำ ๆ ที่มองเห็นนั้นเกิดจากการทำปฏิกิริยาออกซิเดชันของสิ่งอุดตันในรูขุมขนกับออกซิเจน และเปลี่ยนสิ่งอุดตันให้มีสีเข้มขึ้นหรือเป็นสีดำ จึงเป็นที่มาของสิวหัวดำนั่นเอง
• สิวหัวขาวหรือสิวอุดตันหัวปิด (Whiteheads) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กสีขาวบนผิวหนัง ไม่มีรูเปิด ส่วนใหญ่แล้วรากสิวประเภทนี้จะอยู่ลึกกว่าสิวหัวดำ จึงไม่มีการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน และรักษาได้ยากกว่าสิวหัวดำ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา สามารถพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้หากมีการติดเชื้อค่ะ

สิวอุดตันเกิดจากอะไร ?

สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วและไขมันที่มีการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยการอุดตันจะเกิดภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง และปรากฏออกมาเป็นสิวอุดตันในลักษณะต่าง ๆ

โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตันมีหลากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิ

1. ปฏิกิริยาที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ทำงานมากเกินไป จนกลายเป็นไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน ที่มีฤทธิ์แรงกว่าเทสโทสเทอโรน และส่งผลกระทบภายในเซลล์ผิวหนังได้มากกว่า
2. กรดไขมันอิสระที่เกิดขึ้นภายในต่อมไขมัน อันเป็นผลมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
3. ระดับของกรดไขมันไลโนเลอิค (Linoleic Acid) ที่ลดลงในไขมันที่ถูกผลิตจากต่อมไขมัน อาจทำให้ระบบการทำงานเพื่อการปกป้องผิวชั้นในลดต่ำลงไปด้วย
4. สารกระตุ้นการอักเสบ (Proinflammatory Cytokines) ที่ถูกผลิตโดยเยื่อบุเซลล์ภายในรูขุมขน ซึ่งเป็นกระบวนการตอบสนองในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
5. ผิวสัมผัสกับสารเคมีที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน เช่น สารไอโซโพรพิลไมริสเตท (Isopropyl Myristate) สีย้อมที่มักพบในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์แชมพูต่าง ๆ หรือสารโพรไพลีน ไกลคอล (Propylene Glycol) ที่เป็นส่วนผสมในเนื้อครีมหรือเจลต่าง ๆ
6. ภาวะผิวหนังมีน้ำมากเกินไปในช่วงก่อนมีประจำเดือน ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังเสริมให้เกิดภาวะนี้ หรือภาวะอาการทางกายอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
7. เกิดความเสียหายบริเวณรูขุมขนจากการบีบสิว การขัดผิวหน้า การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี หรือการทำเลเซอร์ เป็นต้น
8. การรับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลมาก ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันได้
9. การระคายเคืองของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากการขัดผิว บีบสิว หรือผลัดเซลล์ผิวด้วยการทำเลเซอร์หน้า
10. การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายในช่วงวัยรุ่น หรือผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน
11. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง หรือแชมพูบางชนิด
12. การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิด ยาสเตียรอยด์ ยาลิเทียม
13. การสูบบุหรี่

การรักษาสิวอุดตัน

ในขั้นตอนของการรักษาสิวอุดตันนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่มีสิวอุดตันไม่เยอะมาก สามารถรักษาด้วยตัวเองได้ค่ะ โดยใช้ยาทาเฉพาะที่หรือเซรั่มแต้มสิวบริเวณที่เป็นสิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยชำระสิ่งที่อุดตันตรงบริเวณรูขุมขนและน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าให้ออกไปได้ง่ายขึ้น ทำให้สิวแห้งและยุบลงไปค่ะ

โดยส่วนผสมที่คุณสมบัติของมันมีไว้เพื่อจัดการสิวโดยเฉพาะ บิวยกให้เป็นนัมเบอร์วันเลยนั่นคือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือจะเป็นส่วนผสมตัวอื่น เช่น เบนซิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดอะซีลาอิค (Azelaic Acid) หรือกรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) ก็สามารถใช้ได้ด้วยเช่นกันค่ะ

นอกจากการใช้ยาในการรักษาแล้ว สิ่งที่เพื่อน ๆ ควรทำควบคู่กันไปนั่นคือการปรับพฤติกรรมและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน เช่น หมั่นรักษาความสะอาดของใบหน้าและร่างกาย ล้างหน้าให้สะอาด 2 ครั้งต่อวัน ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับผู้มีปัญหาสิวที่มีความอ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าหรือบริเวณที่เป็นสิว ไม่จับ บีบ แคะ แกะ เกาสิว เพื่อป้องกันการอักเสบของสิวอุดตัน และอาจทำให้แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวแพร่ไปยังผิวบริเวณอื่น นอกจากนี้ ยังควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เพื่อน ๆ คนไหนที่แต่งหน้า ควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องสำอางด้วยนะคะ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน และไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และไม่สูบบุหรี่หรือถ้าเลิกได้ก็เลิกสูบบุหรี่ค่ะ  

แต่หากมีสิวขึ้นเป็นจำนวนมากและรักษาด้วยตนเองแล้วสิวอุดตันยังไม่เบาบางลง ควรไปพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจรักษา คุณหมอจะได้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้ค่ะ อย่างไรก็ตาม การรักษาสิวอุดตันควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ มักให้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วกว่าค่ะ

สิวอุดตันรักษานานแค่ไหน

การรักษาสิวอุดตันอาศัยระยะเวลาพอสมควรค่ะ บางรายอาจเริ่มเห็นผลการรักษาเมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอาการ ความรุนแรง วิธีการรักษา และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ

การป้องกันการเกิดสิวอุดตัน

สิวอุดตันอาจป้องกันได้ด้วยการเลือกใช้สกินแคร์และการปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิว เช่น

• รักษาความสะอาดบนใบหน้า ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า และไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม เพื่อกำจัดไขมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันบนผิวหนัง หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
• ล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนเข้านอน ไม่นอนหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอาง
• เลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของตัวยาเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) เพื่อลดความมันบนใบหน้าและผิวหนัง
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) ซึ่งระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์  ก็จะช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้
• ไม่ให้เส้นผมปกปิดใบหน้า เนื่องจากแชมพูบางชนิดที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน อาจอุดตันรูขุมขนใต้ผิวหนัง จนทำให้เกิดสิวได้
• ไม่บีบสิว ไม่สัมผัสใบหน้า หรือผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว เพราะจะเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวขึ้นมาอีก และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนังด้วย
• หลีกเลี่ยงแสงแดด ควรสวมใส่เครื่องแต่งกายปกปิดผิว เนื่องจากแสงแดดอาจมีผลกระทบทำให้เกิดสิวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้าหรือได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ

ถ้าเพื่อน ๆ สามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี บิวเชื่อว่าสิวอุดตันที่ว่าแน่ ก็ต้องแพ้พ่ายไปได้ในที่สุดค่ะ สิ่งสำคัญคือเราต้องตั้งใจและใส่ใจในการดูแลตัวเองให้ดี เพราะถ้าเราเป็นสิวอุดตันแล้วละเลยในการดูแลรักษา อาจทำให้สิวเกิดการอักเสบจนกลายมาเป็นสิวอักเสบได้นะคะ ซึ่งวิธีจัดการสิวอักเสบบิวทำบทความแยกไว้ให้แล้วค่ะ

ซึ่งนอกเหนือจากสิวอักเสบ ก็ยังมีสิวชนิดอื่น ๆ ที่เราจะประมาทมันไม่ได้เลยนะคะ อาทิ สิวเสี้ยน สิวฮอร์โมน สิวผด สิวอักเสบ ใครอยากรู้วิธีจัดการสิวเหล่านี้สามารถคลิกลิงก์ตามไปอ่านกันได้เลยนะคะ

วันนี้บิวต้องขอตัวลาไปก่อน เพื่อน ๆ คนไหนมีปัญหาสิวอุดตันหรือปัญหาเจอผิวอื่น ๆ สามารถ Inbox มาคุยกับบิวกันได้เลยนะคะ บิวไปก่อนน้าทุกคนนน บายค่าาา

https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/comedones.html

https://www.pobpad.com/สิวอุดตัน